ดูแลผู้สูงอายุ ใน สวนหลวง, กรุงเทพมหานคร

ดูแลผู้สูงอายุ ใน สวนหลวง, กรุงเทพมหานคร

คุณต้องการใช้บริการนี้เมื่อไหร่?
ตอนนี้
ระบุวันที่
ผู้ให้บริการดูแลผู้สูงอายุ ใน สวนหลวง, กรุงเทพมหานคร:

วิธีการทำงาน

Saijai

ติดต่อเรา

ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ

Saijai

แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ

เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ

Saijai

ยืนยันการจองของคุณ

เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA

Pailin Sangmaneepang
Pailin Sangmaneepang
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

I am an honest woman without bad habits. I have experience in caring for post-stroke patients and patients with diabetes. You can also cook Thai and European food. If necessary, I can drive a car. (I have a driver's license) And keep the house clean at the request of the owner. Conscientious and kind attitude towards the patient is guaranteed.

แสดงเพิ่มเติม
กัญญาภัทร บุตรพรม
กัญญาภัทร บุตรพรม
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

ใจเย็น รักสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย นวดได้ ภาษาได้ อาหารได้ ขอบคุณค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อธิวุฒิ สมัครการ
อธิวุฒิ สมัครการ
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 35 ปี

เป็นคนใจเย็น รักการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หากมีที่พักให้เช่าใกล้สถานที่ทำงานจะดีมาก หรือจะให้อยู่บ้านเฝ้า 24 ชั่วโมงเลยก็ได้ครับ

แสดงเพิ่มเติม
Suttinee  Munin
Suttinee Munin
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

น.ส. ศุทธินี เหมือนอินทร์อายุ 22 ปี ศาสนา พุทธ เรียนจบ ผู้ช่วยพยาบาล pn เคยทำงาน opd ดูแลผู้สูงอายุ กุมารเวชกรรมที่อยู่ เจริญนคร 55 เขต คลองสาน กรุงเทพมหานครมีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้ากับคนง่าย ยิ้มแย้ม ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
อารยา หนูทอง
อารยา หนูทอง
Saijai อายุ 24 ปี

เคยดูแลคุณย่าเมื่อสองปีก่อนระหว่างการเป็นนักเรียนกับผู้ให้การดูเเล

แสดงเพิ่มเติม
เอมิกา  ปริยพนาดร
เอมิกา ปริยพนาดร
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี

นิสัยส่วนตัวมีความเป็นกันเองสามารถช่วยเหลือคนอื่นไดในยามที่คนอื่นต้องการความช่วยเหลือจากเรา

แสดงเพิ่มเติม
สิริมา ทวีสิทธิ์
สิริมา ทวีสิทธิ์
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี
Saijai อายุ 51 ปี

มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมามากกว่า5ปี สามารถขับรถพาไปหาหมอ อยู่เป็นเพื่อน เฝ้าไข้

แสดงเพิ่มเติม
ปนัดดา ราชสี
ปนัดดา ราชสี
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 26 ปี

อดนอนได้ ความอดทนสูงใจรักในงานบริการ ซื้อสัตย์ รักงานชอบคุย

แสดงเพิ่มเติม
ศิริกานต์ จาวะลา
ศิริกานต์ จาวะลา
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 29 ปี
วลดา ดาวเรือง
วลดา ดาวเรือง
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี

สวัสดีค่ะหนูจบผู้ช่วยพยาบาลหนูมั่นใจว่ามีจิตใจอ่อนโยนและใจเย็นมากๆค่ะเคยดูแลผู้ป่วยติดเตียงในโรงพยาบาลได้ดีมากๆค่ะและยังสามารถทำได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทำกับข้าวขับรถหรือไปทำธุระให้ได้ค่ะ คุยกันได้ก่อนค่ะ

แสดงเพิ่มเติม
สุวณิช  พงษ์ศิริเจริญ
สุวณิช พงษ์ศิริเจริญ
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

พยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน

แสดงเพิ่มเติม
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
อคัมย์สิริ ศศิชลพินทุ์
Saijai ประสบการณ์ 0-1 ปี
Saijai อายุ 42 ปี

ใจเย็น รักในการดูเอาใจใส่

แสดงเพิ่มเติม
วชิราภรณ์ ขาวอุบล
วชิราภรณ์ ขาวอุบล
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

ชื่อเล่นชื่อนก อายุ 36 ปี ประวัติการทำงานเคยทำงานที่โรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อย 10 ปีแผนกห้องผ่าตัด 4 ปี แผนก ICU 6 ปีดูแลผู้สูงอายุ 2 ปี

แสดงเพิ่มเติม
นงนุช  ปั่นแก้ว
นงนุช ปั่นแก้ว
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี

เคยทำงานดูแลผู้สูงอายุติดเตียง ทำทุกอย่างบนเตียง ให้อาหาร ให้ยา เข็ดตัว สวนอุจจาระ เปลี่ยนแพมเพิส ทำความสะอาดที่ดูแล ชอบเอาใจผู้ป่วยเข้าใจเอาใจใส่รักและเคารพผู้ป่วยและนายจ้างซื่อสัตย์จริงใจ แต่ไม่ชอบวุ่นวาย

แสดงเพิ่มเติม
อทิตยา บางชัยภูมิ
อทิตยา บางชัยภูมิ
Saijai อายุ 47 ปี

ค่าจ้างพิจารณาตามความเหมาะสมชอบดูแลผู้สูงอายุ

แสดงเพิ่มเติม
รุ่งเพชร ก๊กรัมย์
รุ่งเพชร ก๊กรัมย์
Saijai ประสบการณ์ 1-2 ปี
ผ่านการตรวจสอบประวัติบุคคล

พร้อมดูแล​ห่วงใย​เอาใจใส่ผู้สูงอายุ

ใจเย็น​เพียบพร้อม​สามารถทำกายภาพบำบัด​นวดแขนขา​พาเดิน​หรือทำนา​สั่งได้ทุกอย่าง

พร้อมดูแลครอบครัวท่านดุจพ่อแม่

แสดงเพิ่มเติม
ไวพจน์ หมู่ขำ
ไวพจน์ หมู่ขำ
Saijai อายุ 32 ปี

14,000ต่อเดือน ใจเย็นสะอาดเรียบร้อย ใส่ใจและรักในงานที่ทำ เชื่อว่าความสามารถของตัวเองจะทำให้งานที่ได้รับมอบหมายออกมาดีที่สุด

แสดงเพิ่มเติม
Rain Ny
Rain Ny
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

รับสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดีปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เพราะทำงานแผนกผู้ป่วยหนักมา 10 ปีค่ะ ลักษณนิสัยพูดคุยกับผู้ด้วยโดยดูสีหน้าบุคคลิกของผู้ป่วยก่อนว่าเป็นคนแบบไหนชอบให้พูดคุยด้วยไหมให้กำลังใจผู้ป่วยในยามที่ท้อแท้สิ้นหวัง

แสดงเพิ่มเติม
สมใจ  เจริญสุข
สมใจ เจริญสุข
Saijai ประสบการณ์ 3-4 ปี
พัชญ์ณัฐฏ์ หวยสูงเนิน
พัชญ์ณัฐฏ์ หวยสูงเนิน
Saijai ประสบการณ์ 5 ปี

เป็นคนรับผิดชอบงาน ไม่เทงานแม้จะยาก จริงใจ พูดตรง

แสดงเพิ่มเติม

ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ

Saijai จำนวนประชากร
Saijai จำนวนประชากรเด็ก (แรกเกิด-14 ปี)
Saijai จำนวนประชากรสูงอายุ (60 ปี ขึ้นไป)
Saijai จำนวนสัตว์เลี้ยง สุนัข

รีวิวล่าสุด

เจอเว็บใส่ใจ เข้าไปเลือกคนดูแล เอารูปกับประวัติมานั่งคุยกับคุณย่า เลยได้ป้ากิ๊กมาดูแล ป้ากิ๊กดูแลดีมาก คุณย่ามีความสุข ในเว็บใส่ใจบอกข้อมูลครบเลยทั้งประวัติการทำงาน และประวัติการศึกษา
Saijai
กฤษณ์ ชัยเขตุสานุวัฒน์
4 ปีที่แล้ว
หาข้อมูล เจอเว็บใส่ใจ ที่มีพี่เลี้ยงดูแลผู้สูงอายุ ลองอ่านประสบการณ์เลย เจอจิต (พี่เลี้ยงดูแลพ่อ) ทุกอย่างเป็นไปตามข้อมูลในเว็บทำให้พวกเราไม่ยากที่จะตัดสินใจ จิตทำงานดีมากเข้ากับคุณพ่อได้ดี ขอบคุณใส่ใจค่ะ
Saijai
พชร ต้นไกลสุทธฺ์
4 ปีที่แล้ว
มีคนแนะนำเวปใส่ใจสำหรับหาคนดูแลผู้สูงอายุ ประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ พี่ที่ดูแลเขาอยู่เป็นเพื่อนแถมคุณยายอยากไปไหนเขาพาไปตลอดเลยค่ะ ตอนอยู่บ้านก็คอยจัดเตรียมอาหาร เตรียมยาให้ด้วย ต้องขอบคุณใส่ใจมาก ๆ เลยค่ะ เรากับพี่สาวรู้สึกวางใจไปได้เยอะเลย
Saijai
ปิยธิดา อรุณไชย
4 ปีที่แล้ว
ได้คนคอยดูแลแม่ผมอย่างดี และถ่ายภาพรายงานเรื่องแม่ให้ผมทางไลน์อีกด้วยครับ คุ้มราคามากครับ
Saijai
ปราโมทย์ มนตรา
4 ปีที่แล้ว
เราจ้างคนดูแลผู้สูงอายุมาดูแลคุณยายที่บ้าน พี่เขาทำงานดีมาก ๆ ที่สำคัญเลยคือพี่เขามีประสบการณ์ในการดูแลคนชรา เคยผ่านการอบรมมาแล้ว เลยทำให้เรามั่นใจ และ หายห่วงมาก ๆ
Saijai
นารีรัตน์ ภัทรบัณฑิต
4 ปีที่แล้ว

คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ

ตัวเลือกใดที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านพักคนชรา
คาดการณ์ว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ ร้อยละ 16.2 ของประชากรทั้งหมด ผู้สูงอายุที่เคยดูแลเราในวันก่อนก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นคนที่เราต้องดูแล วิถีชีวิตปัจจุบัน หลายครอบครัวไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุได้ด้วยตัวเอง อะไรที่ดีกว่าระหว่างจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่บ้านหรือให้ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุดูแล

ข้อดีของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

การที่ผู้สูงอายุได้อยู่อาศัยในบ้าน ทำให้ไม่รู้สึกแปลกสถานที่ รู้สึกว่าอยู่กับครอบครัวลูกหลาน ไม่เกิดความว้าเหว่ ผู้สูงอายุยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมและไม่รู้สึกว่ามีใครหายไป การดูแลยังอยู่ในสายตาของลูกหลาน หากเกิดข้อบกพร่องหรือสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่สบายใจ ผู้สูงอายุสามารถพูดขึ้นกับลูกหลานและแก้ไขปัญหาได้ในทันที

ข้อเสียของการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

คือค่าใช้จ่ายที่สูง เพราะต้องใช้ผู้ที่ผ่านการอบรมเป็นพิเศษ และอาจต้องจ้าง ตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจต้องใช้ 1-2 คนในการดูแล ผู้ว่าจ้างไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่านิสัยของคนที่จ้างมาเป็นอย่างไร รักการทำงานบริการผู้สูงอายุหรือไม่ หรือสามารถการปรับตัวให้เข้ากับผู้สูงอายุได้หรือไม่

ข้อดีของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุหรือบ้านพักคนชรา

คือมีสถานที่พร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการดูแล บางแห่งมีเครื่องมือแพทย์ หรือพยาบาลวิชาชีพดูแล ผู้สูงอายุได้พบปะกับอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน ซึ่งจะช่วยคลายความกังวลใจของผู้สูงอายุลงไปได้บ้าง หากมีเหตุฉุกเฉิน เกิดอุบัติเหตุ ไม่สบาย ทางศูนย์ดูแลพร้อมให้ปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล

ข้อเสียของการใช้บริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและเราจะไม่มีทางรู้หรือเห็นเหตุการณ์อื่นใดนอกเหนือจากตอนที่ไปถึงศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งอาจปล่อยปละละเลย ผู้สูงอายุอาจไม่มีความสุขที่ต้องจากครอบครัว สุขภาพจิตอาจแย่ลง

ท้ายที่สุดแล้วความใส่ใจและความพร้อมของสมาชิกครอบครัวมีส่วนในการพิจารณาการตัดสินใจ และที่สำคัญคือตัวของผู้สูงอายุที่เราต้องดูแลว่าท่านมีความพร้อมและยินยอมเห็นสมควรกับแนวทางการเลือกดูแลของสมาชิกครอบครัว
หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุหรือคนชรา คุณควรเลือกผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง
การเลือกผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือคนชราถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณสมบัติของผู้ดูแลที่มีความเป็นมืออาชีพนั้นมีดังนี้

1. ผู้ดูแลควรผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง และควรมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้สูงอายุความปลอดภัยตลอดระยะเวลาการดูแ
2. ผู้ดูแลต้องมีใจรักไม่ว่าจะเป็นงานการบริบาล และบริการ มีจิตใจชอบช่วยเหลือและปรารถนาดีต่อผู้อื่น และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
3. มีความอดทนและสามารถเข้าอกเข้าใจผู้สูงอายุเป็นอย่างดีว่าต้องการอะไร เนื่องจากผู้สูงอายุหรือคนชรานั้นเป็นช่วงอายุที่ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนในหลาย ๆ เรื่อง ผู้ดูแลควรรู้ว่าจะต้องดูแลและบริการอย่างไรให้ผู้สูงอายุมีความพึงพอใจ
4. มีความดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุ สามารถดูแลและช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นการดูแลเรื่องอาหาร สุขอนามัย และกิจวัตรประจำวันอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลเรื่องสภาพจิตใจ ผู้ดูแลที่สามารถอยู่เป็นเพื่อนคุยและทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกับผู้สูงอายุได้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุรู้สึกโดดเดี่ยว
5. สามารถสื่อสารและรายงานข้อมูลระหว่างการดูแลให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุได้ตลอดเวลา เพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับสมาชิกในครอบครัวของผู้สูงอายุที่ได้ทำการว่าจ้างผู้ดูแลมาทำหน้าที่ในส่วนนี้
คุณสมบัติที่กล่าวมาข้างตนนั้นสามารถบ่งบอกได้ถึงความเป็นมืออาชีพของผู้ดูแลผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี หากคุณต้องการให้ผู้สูงอายุในบ้านซึ่งเปรียบเสมือนบุคคลที่คุณรักและเคารพนับถือนั้นมีความสุข โปรดอย่ามองข้ามคุณสมบัติเหล่านี้ไปก่อนเลือกใช้บริการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านคุณ
อะไรที่ช่วยให้คุณคลายความกังวลเมื่อต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุ คนชราอยู่กับผู้ดูแลตามลำพัง
แม้ว่าคุณจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างอย่างครบถ้วนและได้ตัดสินใจจ้างผู้ดูแลผู้สูงอายุมาแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติหากคุณจะยังคงกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ อยู่ สิ่งที่จะช่วยให้คุณคลายความกังวลหากต้องปล่อยให้ผู้สูงอายุอยู่กับผู้ดูแลตามลำพังที่บ้านมีดังนี้

1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
ข้อตกลงที่สำคัญในการดูแลผู้สูงอายุมีอะไรบ้าง
เมื่อตัดสินใจจ้างคนดูแลผู้สูงอายุแล้ว ควรทำข้อตกลงสำคัญระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ดูแลที่คุณทำการได้จ้างมา เพื่อเป็นการรับประกันความปลอดภัยให้กับผู้สูงอายุตลอดระยะเวลาการดูแล ซึ่งข้อตกลงที่จำเป็นต้องทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่ายมีดังนี้

1. ทำสัญญาจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร โดยสิ่งที่ควรระบุอยู่ในสัญญาอย่างชัดเจนได้แก่ ระยะเวลาการดูแล วันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ ชั่วโมงการทำงาน จำนวนค่าจ้าง รวมไปถึงสวัสดิการและวันหยุดที่ผู้ดูแลควรได้รับตามกฎหมายแรงงาน โดยที่ทั้งสองฝ่ายต้องเซ็นยินยอมเพื่อเป็นการรับรู้ต่อสัญญาและข้อกำหนดที่ได้ตกลงกันไว้
2. ผู้ว่าจ้างควรอธิบายข้อมูลส่วนตัวของผู้สูงอายุให้กับผู้ดูแลอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอุปนิสัย ความชอบส่วนตัว อาหารที่กินได้และไม่ได้ ที่สำคัญหากผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ผู้ว่าจ้างควรบอกให้ผู้ดูแลรับรู้ก่อนเพื่อให้ผู้ดูแลสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้
3. อธิบายขอบเขตและวิธีการทำงานให้กับผู้ดูแลอย่างชัดเจน สิ่งใดที่ทำได้และไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันขั้นเบื้องต้น
4. ข้อตกลงเรื่องที่อยู่อาศัย หากผู้ว่าจ้างต้องการให้ผู้ดูแลอาศัยอยู่ที่บ้านตลอดช่วงระยะการดูแลผู้สูงอายุ ควรจัดเตรียมที่พักอาศัยให้กับผู้ดูแล รวมไปถึงแจกแจงเรื่องกฎในการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในบ้านตลอดช่วงระยะเวลาเช่นกัน
5. ใส่ใจในเรื่องของสุขอนามัยของผู้ดูแลที่ทำการว่าจ้างมา หากผู้ดูแลมีอาการป่วยกะทันหัน ผู้ว่าจ้างควรออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งสวัสดิการที่ผู้ดูแลควรได้รับ และควรให้ผู้ดูแลลางานได้ทันที เพื่อเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อผู้สูงอายุภายในบ้าน

การทำข้อตกลงในการว่าจ้างนั้นนอกจากจะเป็นการช่วยให้ทำความเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว ยังช่วยสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่ายได้อีกด้วย

จากตำบล สู่ เขตสวนหลวง

วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 กรุงเทพมหานครได้ประกาศจัดตั้งแขวงอ่อนนุชและแขวงพัฒนาการแยกจากพื้นที่แขวงสวนหลวง โดยมีผลบังคับใช้ในวันเดียวกัน ส่งผลให้เขตสวนหลวงในปัจจุบันแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 3 แขวง บทสรุปที่ลงตัวของเขตสวนหลวงหลังจากที่ประปรุงเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมของพื้นที่และประชากร จากตำบลเล็กๆ ในปี พ.ส.2470 ที่ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้โอนอำเภอพระโขนงรวมทั้งตำบลสวนหลวงมาขึ้นกับจังหวัดพระนคร (เป็นจังหวัดในอดีตของประเทศไทย ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา มีขึ้นในช่วง พ.ศ. 2408–2515 ก่อนที่จะรวมกับจังหวัดธนบุรี เป็นกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน)

สถานีหัวหมาก (รถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) เป็นสถานีสำคัญในเขตนี้ เป็นสถานีรถไฟฟ้าในเส้นทางระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อม ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport Rail Link - SARL) ในระบบรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สาย City Line (Suvarnabhumi Airport Rail Link City Line) ที่แวะจอดรายทางจากสถานีพญาไทถึงสุวรรณภูมิ และอนาคต สถานีนี้จะเชื่อมต่อ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง หรือชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า รถไฟฟ้า BTS สายศรีนครินทร์ เป็นโครงการระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางราง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งทำให้ราคาที่ดินบริเวณสถานีหัวหมากราคาที่ดินปรับตัวสูงต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มลงมือก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 2 เส้นทางอย่างเป็นรูปธรรม จากราคาประมาณ 100,000 บาทต่อตารางวาก่อนหน้ายังไม่มีการก่อสร้างขยับขึ้นถึง 400,000-500,000 บาทต่อตารางวาในปัจจุบันส่วนที่ดินที่อยู่ในซอย และถนนสายรองๆ จะมีราคาขายที่ต่างกันออกไปตามศักยภาพของที่ดินนั้นๆ เพราะทุกวันนี้การที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่านดูเหมือนจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเร่งให้ความน่าสนใจของพื้นที่ตามแนวเส้นทางมีมากขึ้น คาดการว่าในอนาคตปริมาณผู้ใช้รถไฟฟ้าจะมากขึ้น ตามความสะดวกด้วย

สำหรับสถานที่สำคัญ ของเขตสวนหลวง นอกจากวัดที่อยู่สองฝั่งคลองพระโขนง เช่น วัดมหาบุศย์ (วัดแม่นาคพระโขนง) ชมเรือโบราณ เสาตะเคียนโบราณ ต้นตะเคียนเก่าแก่ ศาลา และรูปเหมือนแม่นาค ยังมี มัสยิดอัลกุ๊บรอ มัสยิดเป็นมัสยิดแห่งแรกในเขตสวนหลวงสถานที่ประกอบศาสนกิจของชาวไทยมุสลิมมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์จวบจนปัจจุบัน และ มัสยิดอัลเอี๊ยะติซอม ซึ่งบรรพบุรุษของชาวมุสลิมที่อพยพมาจากภาคใต้ จังหวัดปัตตานี ได้ร่วมกันสร้างขึ้นใหม่



5 วิธีเติมเต็มวัยทองด้วยความสุข

ทุกคนมีพยายามที่จะใช้ชีวิตอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และผู้สูงอายุมีโอกาสพิเศษในการแสดงให้ผู้อื่นเห็นวิธีการค้นหาความสุขตลอดช่วงวัย เคล็ดลับทั้งเจ็ดนี้เหมาะสำหรับผู้สูงอายุทุกคนที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวัยชรา

1. จัดลำดับความสำคัญของครอบครัวและเพื่อน การเชื่อมต่อทางสังคมเป็นกุญแจสำคัญของความสุขตามวัย เพื่อนและสมาชิกในครอบครัวเป็นบุคคลที่จะช่วยสร้างความสุขให้กับผู้สูงอายุ พวกเขายังเป็นบุคคลที่จะอยู่เคียงข้างเพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาพิเศษของคน คุณคนพิเศษ ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่คนเดียวยังสามารถได้รับประโยชน์จากความเป็นเพื่อนของผู้ดูแลมืออาชีพที่มีความเห็นอกเห็นใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลที่บ้าน สามารถเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้สูงอายุ ไม่ว่าพวกเขาต้องการการดูแลตลอดเวลาหรือเพียงแค่ต้องการความช่วยเหลือในการออกกำลังกายและงานบ้านสัปดาห์ละสองสามวันผู้สูงอายุสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ดูแลที่บ้านที่ไว้วางใจได้

2. ยิ้มต่อไป มันฟังดูเรียบง่าย แต่เมื่อถึงเวลายากลำบากการยิ้มกลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่การยิ้มสามารถกระตุ้นฮอร์โมนในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับความสุข กระตุ้นให้คนที่คุณรัก ยิ้มให้กับกระจกเมื่อตื่นนอนครั้งแรกในตอนเช้า การเริ่มต้นด้วยการยิ้มอาจทำให้คุณรู้สึกดีได้ตลอดทั้งวัน

3. ค้นพบความสนใจใหม่ ๆ ปัจจุบันเป็นยุคของข่าวสารและข้อมูล การได้เรียนรู้และเข้าถึงสิ่งใหม่ สามารถทำได้ไม่ยากด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย ผู้สูงอายุสามารถเข้าเรียนและสำรวจงานอดิเรกต่างๆที่กระตุ้นจิตใจและร่างกาย ในที่สุดจะพบกับกิจกรรมใหม่ ๆ ที่เติมเต็มความสุขให้พวกเขาได้

4. รักษาสุขภาพให้แข็งแรง ปัญหาสุขภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ความสุขลดลง ตัวอย่างเช่นการบาดเจ็บที่ไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ความเจ็บปวดเรื้อรังที่ทำให้รู้สึกมีความสุขได้ยาก ผู้สูงอายุควรให้คำมั่นสัญญากับตนเองว่าจะนัดตรวจสุขภาพตามกำหนดเวลาอย่างสม่ำเสมอและเข้ารับการตรวจเมื่อมีอาการผิดปกติ นอกจากนี้ยังควรปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของการดำเนินชีวิตที่มีสุขภาพดี เพื่อป้องกันภาวะสุขภาพทั่วไปที่เกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ผู้สูงอายุบางคนต้องการความช่วยเหลือในการใช้ชีวิตประจำวันเพียงเล็กน้อยเพื่อให้พวกเขาสามารถรักษาความเป็นอิสระได้

5. มีอารมณ์ขัน ความคิดที่ว่าผู้อาวุโสสูญเสียอารมณ์ขันนั้นไม่จริงเลย พวกท่านยังอยากร่วมทำกิจกรรมกับครอบครัวหรือคนที่เป็นที่รัก ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ดูละคร หรือพูดคุยหยอกล้อ เพื่อที่ได้คลายความเหงา และสร้างเสียงหัวเราะ การได้ยินเรื่องตลกอาจทำให้จิตใจของเขาดีขึ้น ความสุขรอบตัวหาได้ง่าย อยู่ที่ความเข้าใจและการยอมรับความเปลี่ยนแปลง



6 วิธีง่ายๆ ในการจัดการอาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุ

ภาวะซึมเศร้าเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ เมื่อคุณสงสัยว่าคนที่คุณรักกำลังซึมเศร้า ให้ใช้กลยุทธ์ต่อไปนี้เพื่อเพิ่มความสุขให้พวกท่าน

1. รับรู้สัญญาณเริ่มต้นของอาการซึมเศร้า

ผู้สูงอายุอาจไม่ทราบว่าพวกเขารู้สึกหดหู่ใจเสมอไป แต่คุณอาจสังเกตเห็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าท่านอาจต้องการความช่วยเหลือ ตัวอย่างเช่นผู้ปกครองของคุณอาจเลิกทำกิจกรรมโปรดหรือเลิกดูแลสุขอนามัยส่วนตัว หากคุณสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติให้พูดคุย ซักถามท่านทันที

ภาวะซึมเศร้าเป็นเพียงหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่ผู้สูงอายุมีความอ่อนไหว ผู้สูงอายุสามารถเผชิญกับความท้าทายต่างๆได้เมื่ออายุมากขึ้นซึ่งหลายอย่างสามารถบรรเทาได้ด้วยความช่วยเหลือของผู้ดูแลในบ้านมืออาชีพที่ให้การดูแลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพสูง

2. แจ้งเตือนหลังจากเหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนแปลงชีวิต

ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าหลังจากมีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หรือได้รับการวินิจฉัยว่ามีปัญหาสุขภาพใหม่หรือโรคใหม่ อย่าลืมสังเกตคนที่คุณรักเพื่อหาสัญญาณของภาวะซึมเศร้าในช่วงเวลาเหล่านี้

3. ค้นหาสาเหตุทางกายภาพ

อาการซึมเศร้าอาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากปัญหาสุขภาพร่างกาย ตัวอย่างเช่นความผิดปกติของต่อมไทรอยด์อาจส่งผลต่อระดับอารมณ์และพลังงาน หรืออีกทางหนึ่งโรคอัลไซเมอร์อาจทำให้เกิดอาการที่ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกหดหู่ พูดคุยกับแพทย์ของผู้สูงอายุ ของคุณเพื่อดูว่ามีสาเหตุทางกายภาพที่ต้องได้รับการแก้ไขหรือไม่

4. ช่วยในการจัดการยา

ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักเป็นจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อจัดการกับปัญหาสุขภาพและอาการเจ็บป่วย ผู้ดูแลควรมีระบบหรือบริหารจัดการยาเวลาการให้ยาเพื่อให้เข้ากับตารางกิจวัตรประจำวันและให้มั่นใจว่าไม่มีการหลงลืมยาที่จำเป็น จนส่งให้เกิดปัญหาสุขภาพหรืออาการเจ็บป่วยลุกลามรุนแรง

5. ส่งเสริมนิสัยการดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ

ผู้สูงอายุที่มีอาการซึมเศร้าอาจไม่รับประทานอาหารที่เหมาะสมหรือออกกำลังกายซึ่งส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิต การกำหนดแผนการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกายที่ช่วยท่านมีความกระตือรือร้น หากจำเป็นให้มีคนไปเยี่ยมพ่อแม่ของคุณทุกวันเพื่อให้กำลังใจอย่างอ่อนโยนและทำตามแผนต่อไป

6. มอบประสบการณ์แปลกใหม่

การมอบประสบการณ์เชิงบวกจะช่วยให้พ่อแม่ของคุณมีมุมมองที่ดีต่อชีวิต ตัวอย่างเช่นคุณสามารถดูหนังตลกด้วยกันหรือออกไปเดินเล่นท่ามกลางแสงแดด ล้อมรอบคนที่คุณรักด้วยโอกาสทางสังคมและกิจกรรมต่างๆที่รอคอยในอนาคต