วิธีการทำงาน
ติดต่อเรา
ติดต่อเราโดยตรงผ่าน LINE OA เพื่อจองบริการที่คุณต้องการ
แจ้งรายละเอียดให้เราทราบ
เลือกบริการ วันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการให้ตรงกับความต้องการของคุณ
ยืนยันการจองของคุณ
เราจะยืนยันการจองของคุณภายใน 24 ชั่วโมงผ่านทาง LINE OA
ประเภทงานบริการ
ผู้ดูแลผู้สูงอายุชั่วคราว ผู้ดูแลผู้สูงอายุสองภาษา ผู้ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย รับอยู่เป็นเพื่อนผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ดูแลผู้ป่วยพักฟื้น/เฝ้าไข้ ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมบริการในเมืองยอดนิยม
บางเขน บางกอกน้อย ป้อมปราบศัตรูพ่า พระนคร บางพลัด บางบอน พระโขนง ภาษีเจริญ คลองสามวา ตลิ่งชันพยาบาลวิชาชีพ ICU และพยาบาลควบคุมโรคติดเชื้อ นิสัยร่าเริง สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เข้าใจชีวิต เชี่ยวชาญการดูแลผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพระบบสมอง หลอดเลือด หัวใจ ทางเดินอาหาร ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดระบบต่างๆ ผู้ป่วยที่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจที่บ้าน ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษที่บ้าน ผู้ป่วยสูงอายุที่ต้องการเพื่อน
แสดงผล 21 ถึง 39 จาก 39 ผลการค้นหา
1 2ข้อมูลสถิติน่าสนใจเกี่ยวกับ
รีวิวล่าสุด
คำถามที่พบบ่อยสำหรับการค้นหา ดูแลผู้สูงอายุ
1. เป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะ คืออายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถคิดและตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล มีวุฒิภาวะที่ดี
2. เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนดูแลผู้สูงอายุจึงควรเป็นคนที่มีความรู้ทั้งในเรื่องจิตวิทยา และด้านโภชนาการอาหาร รวมทั้งความสะอาดทั่วไปด้วย แม้ว่าการจ้างคนดูแลผู้สูงอายุที่มีความรู้อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าการจ้างคนทั่วไป แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะหากผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่ไม่ดี คนดูแลขาดความรู้แล้ว อาจส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอีกด้วย
3. มีความน่าไว้วางใจ เมื่อจ้างคนดูแลผู้สูงอายุเข้ามาอยู่ในบ้าน อาจจะต้องรับรู้ในส่วนของที่เก็บของต่างๆ รู้ตารางชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว คนดูแลผู้สูงอายุจึงต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ มีประวัติที่ดี และมีทัศนคติที่ดี
4. มีความอดทน เนื่องจากการดูแลผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องง่ายๆ บางครั้งอาจจะต้องดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุอีกด้วย โดยเฉพาะหากเป็นผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยหรือโรคประจำตัว ก็จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
5. ควรจบหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หรือสาขาที่เกี่ยวข้องและหากมีประสบการณ์มักจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ แต่หากไม่จบหลักสูตรดังกล่าว แต่มีประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงอายุมาก่อน ก็จะได้รับการพิจารณาเช่นกัน
6. มีความซื่อสัตย์สุจริต เนื่องจากในบางครั้งอาจจะต้องอยู่กับผู้สูงอายุเพียงลำพัง
7. มีความขยันและสามารถช่วยเหลืองานอย่างอื่นได้ตามความเหมาะสม
1. ตรวจสอบประวัติย้อนหลังของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ทำการว่าจ้างมา เพื่อให้แน่ใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นไม่เคยมีประวัติการกระทำที่ผิดกฎหมายมาก่อน โดยสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมกับกองทะเบียนประวัติอาชญากรได้ที่ http://www.criminal.police.go.th/
2. สอบถามประวัติการทำงานต่าง ๆ ที่ผ่านมา โดยอาจสอบถามจากผู้ว่าจ้างโดยตรงว่าเคยดูแลผู้สูงอายุมาอย่างไรบ้าง มีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนในการดูแลผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ขณะเดียวกันก็สามารถสอบถามจากผู้ว่าจ้างที่เคยทำการจ้างก่อนหน้านี้ได้เช่นเดียวกัน
3. ฝากฝังทางเพื่อนบ้านให้ช่วยสอดส่องดูแลอีกทีหนึ่ง ซึ่งเพื่อนบ้านจะสามารถติดต่อหาเราได้ทันทีหากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น
4. หากว่าจ้างคนดูแลผู้สูงอายุโดยหาจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ควรศึกษาคำวิจารณ์หรือรีวิวจากผู้ใช้ก่อนหน้าว่ามีความคิดเห็นต่อการบริการอย่างไร เพื่อให้มั่นใจว่าคนดูแลที่จ้างมานั้นน่าเชื่อถือและเป็นคนมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ
5. การติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านช่วยให้สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ถือเป็นการป้องกันความปลอดภัยที่ดีอย่างหนึ่งเช่นกัน
1. มีการทำสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อความถูกต้องและความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยระบุข้อวันเริ่มงาน ตกลงในเรื่องของเงินเดือน ชั่วโมงการทำงาน สวัสดิการและวันหยุดที่ควรจะได้รับตามกฎหมายแรงงาน
2. ทำความเข้าใจถึงความคาดหวังที่นายจ้างต้องการจากผู้ดูแล และหน้าที่รับผิดชอบต่างๆ ว่าอาจจะต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการดูแลผู้สูงอายุหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อาจจะต้องช่วยดูแลเพิ่มเติม ในเรื่องของความสะอาดต่างๆ ของเครื่องใช้ หรือความสะอาดในพื้นที่ที่ผู้สูงอายุอยู่
3. อธิบายข้อมูลส่วนตัวในเชิงลึกของผู้สูงอายุที่ต้องดูแล เช่น ลักษณะนิสัย ความชอบส่วนตัว โรคประจำตัว อาหารที่ทานได้ หรือ อาหารที่แพ้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนและมีผลต่อการดูแลผู้สูงอายุเป็นอย่างมาก
4. ควรใส่ใจในสุขภาพของคนที่จะมาเป็นคนดูแลผู้สูงอายุของเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องโรคติดต่อต่างๆ ที่อาจจะแพร่มาสู่คนชราได้ คนดูแลจึงควรมีสุขภาพแข็งแรง และควรมีผลการตรวจสุขภาพมาเพื่อยืนยันกับผู้ว่าจ้าง
5. ทำความเข้าใจว่าหากคนดูแลผู้สูงอายุป่วยไข้ ผู้ว่าจ้างจะอนุญาตให้พักงาน เพื่อลดปัญหาการแพร่เชื้อสู่ผู้สูงอาย
6. หากผู้ว่าจ้างเลือกให้คนดูแลผู้สูงอายุพักอาศัยที่บ้านด้วย ควรมีห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนและมีการจัดหาอาหารให้ ควรอธิบายข้อมูลให้ชัดเจนด้วยว่ามีอาหารให้กี่มื้อต่อวัน
7. คนดูแลผู้สูงอายุควรได้รับการอบรมและตรวจสอบประวัติ และลายนิ้วมือ เพื่อประสิทธิภาพของงาน และความไว้วางใจของผู้ว่าจ้าง
ทำความรู้จักกับเขตดุสิต
เขตดุสิต ตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา มีอาณาเขตทิศเหนือติดกับเขตบางซื่อ ทิศตะวันออกติดกับเขตพญาไท และเขตราชเทวี ทิศใต้ติดกับเขตปทุมวัน และทิศตะวันตกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เดิมดุสิตเป็นอำเภอชั้นใน จาก 1 ใน 8 อำเภอ ที่ตั้งอยู่ริมคลองเปรมประชากร ถนนสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ. 2481 อำเภอทางทิศเหนือชั้นนอก ได้แก่อำเภอบางซื่อถูกยุบมาเป็นตำบลของอำเภอดุสิต เนื่องจากอำเภอดุสิตมีพื้นที่กว้างขวางและประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก กระทรวงมหาดไทยจึงแยกตำบลสามเสนใน ตำบลมักกะสัน ตำบลทุ่งพญาไท ตำบลถนนเพชรบุรี และตำบลถนนพญาไท ไปรวมเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเขตบางกะปิ เพื่อจัดตั้งเป็นอำเภอพญาไท ภายหลังจากการรวมกันของจังหวัดพระนคร และจังหวัดธนบุรี เป็นกรุงเทพมหานครในปัจจุบัน อำเภอดุสิตได้ยกฐานะเป็นเขตดุสิต แบ่งหน่วยการปกครองย่อยออกเป็น 6 แขวง แต่เนื่องจากเขตดุสิตมีพื้นที่และประชากรที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมีการแยกแขวงบางซื่อ จากเดิมที่เป็นแขวงการปกครองของเขตดุสิตออกไปเป็นเขตบางซื่อแทน ปัจจุบันเขตดุสิตแบ่งการปกครองออกเป็น 5 แขวงได้แก่ แขวงดุสิต แขวงวชิรพยาบาล แขวงสวนจิตรลดา แขวงสี่แยกมหานาค และแขวงนครไชยศรี พื้นที่ส่วนใหญ่ของเขตดุสิตประกอบไปด้วยย่านการค้า มีแหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก เป็นเขตทหาร สถานที่รัฐสภา กระทรวงต่างๆ พระราชวัง ที่ทำการสำนักงานส่วนภูมิภาคและสำนักงานประจำประเทศไทย ขององค์การสหประชาชาติ (United Nations) และขององค์การระหว่างประเทศหลายองค์การ รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และเกี่ยวข้องกับศิลปวัฒนธรรมมากมาย ก็อยู่ในพื้นที่เขตนี้ ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้เขตดุสิตเปรียบเสมือนเขตปกครองส่วนกลางของประเทศ
3 วัด พาผู้สูงอายุไปทำบุญ ย่านดุสิต
ช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัว ทุกคนอยากจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาหรือไปเที่ยวด้วยกันเพื่อเก็บความทรงจำร่วมกัน กิจกรรมนอกบ้านสำหรับผู้สูงวัยคงหนีไม่พ้นการไปไหว้พระ ทำบุญ เนื่องจากเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ ผ่อนคลาย เหมาะแก่การพักผ่อนในวันไม่เร่งรีบ และการไหว้พระขอพรยังเป็นการเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตและครอบครัวด้วย
ในเขตดุสิตมีวัดที่เป็นศิลปะสวยงามอยู่มากมายและมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เพื่อให้สูงอายุในครอบครัวของท่านได้ชื่นชมกับความสวยงาม ทำบุญอิ่มอกอิ่มใจ เรามีวัดมาแนะนำผู้สูงอายุสายทำบุญกัน
1.วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เรียกสั้นๆ ว่าวัดเบญฯเป็นอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า "The Marble Temple" เนื่องจากพระอุโบสถระเบียงประดับด้วยหินอ่อนที่นำเข้าจากประเทศอิตาลี เป็นวัดที่มีความงดงามด้วยสถาปัตยกรรมไทยโบราณจนทำให้เป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยและต่างประเทศ ภายในมีพระพุทธรูปและโบราณวัตถุให้ชื่นชมหลายอย่าง หากไปในตอนเช้าสามารถใส่บาตรได้ที่ลานหน้าวัด
สถานที่ตั้ง : วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ระหว่างถนนสายใหญ่หลายสายคือ ถนนพระราม 5 ถนนศรีอยุธยา ถนนราชดำเนินนอก และถนนพิษณุโลก
2.วัดราชาธิวาสวิหาร วัดสวยกลางเมืองใหญ่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา วัดแห่งนี้เป็นอารามหลวงชั้นโทห่างจากสนามหลวงเพียง 2 กิโลเมตร ซึ่งชื่อของวัดมีความหมายว่า “เป็นที่ประทับของพระราชา” วัดแห่งนี้มีความร่มเย็น เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่านเหมาะแก่การทำบุญ จุดเด่นของวัดนี้คืออุโบสถของวัดที่ออกแบบทรงขอมคล้ายกับนครวัด แห่งเดียวในไทย และยังมีภาพวาดฝาผนังที่สวยงาม ถูกเขียนด้วยเทคนิคการเขียนสีของโลกตะวันตก
สถานที่ตั้ง : วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ใกล้กับสนามหลวงและริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
3. วัดเทวราชกุญชรวรวิหาร สามารถชมวัดสวยๆ พร้อมพิพิธภัณฑ์และให้อาหารปลาริมแม่น้ำได้ ที่นี่เป็นวัดอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหารได้รับการปฏิสังขรณ์โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ปัจจุบันภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงามอยู่ในสภาพที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ตกแต่งด้วยสีน้ำเงินเป็นหลักและภายในวัดยังเป็นที่ตั้งของผลิตภัณฑ์ไม้สักทองอีกด้วย ซึ่งวัดแห่งนี้ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมจีน-โปรตุเกส สร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง เป็นศิลปะที่หาชมยากในเขตกรุงเทพมหานคร
สถานที่ตั้ง : วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ริมคลองผดุงเกษมและแม่น้ำเจ้าพระยา
อัลไซเมอร์ โรคอันตรายในผู้สูงอายุ
หากพูดถึงสุขภาพผู้สูงอายุ วัยนี้เป็นวัยที่มีโรคต่างๆ รุมเร้า แต่ละคนมีปัญหาสุขภาพแตกต่างกัน เหตุหนึ่งมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่สะสมมา ผู้สูงอายุจำนวนมากมีอาการของโรค โรคอัลไซเมอร์ หรือคุ้นเคยกันว่า โรคความจำเสื่อม ซึ่งเป็นโรคที่ผู้ป่วยต้องได้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้สูงอายุที่เริ่มมีอาการความจำเสื่อม จำอะไรไม่ค่อยได้ บางครั้งลืมแม้กระทั่งชื่อตัวเอง ซึ่งโรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่พบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ เกิดจากประสิทธิภาพการทำงานของเนื้อเยื่อสมองที่ลดลง จากการเสื่อมสภาพของเซลล์ ทำให้เซลล์สมองฝ่อ สารสื่อประสาทส่งผลกับความทรงจำโดยตรง เมื่อการทำงานของสมองส่วนนี้ลดลงจะทำให้ผู้ป่วยมีปัญหากับความทรงจำระยะสั้นอาจสูญเสียความรู้สึก เกิดพฤติกรรมแปลกๆ ขึ้นมากมาย อีกทั้งไม่สามารถจดจำและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆไ ด้ มักลืมว่าวางของไว้ตรงไหนพยายามทำซ้ำพูดซ้ำทั้งที่เคยทำไปแล้ว หากครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุที่มีอาการป่วยของโรคนี้ที่ แต่สมาชิกในครอบครัวมีหน้าที่การงานที่ต้องทำนอกบ้านจนทำให้ไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุด้วยตัวเองได้ ควรจะหาผู้ดูแลที่มีความรู้ มีทักษะการดูแลผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ หรือใช้บริการดูแลผู้สูงอายุที่ให้การดูแลผู้ป่วยได้อย่างถูกวิธีและต่อเนื่อง ถึงแม้โรคนี้จะไม่สามารถรักษาให้หายได้ และอาการของโรคจะหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่การดูแลอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี และชะลอความรุนแรงของโรคออกไปสักระยะหนึ่ง การรักษามีด้วยกันหลายแบบขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค สิ่งที่ผู้ดูแลควรปฏิบัติคือ ดูแลเรื่องกิจวัตรประจำวันการเข้าสังคม ให้ผู้ป่วยได้ดูแลเรื่องกิจวัตรประจำวันของตัวเอง โดยมีผู้ดูแลเป็นผู้คอยช่วยเหลือ ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม จัดสภาพที่อยู่อาศัยให้ปลอดภัยง่ายต่อการใช้งาน ไม่วางของเกะกะทางเดิน เปิดแสงสว่างให้เพียงพอ เป็นต้น
SAIJAI "ใส่ใจ" เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการดูแลเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ครูสอนพิเศษ/ติวเตอร์ แม่บ้าน/ทำความสะอาด คนขับรถ ดูแลสัตว์เลี้ยง เสริมสวย และช่างซ่อมบำรุงเท่านั้น "SAIJAI" ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการหรือจ้างบุคคลใดให้บริการ ไม่มีสถานะเป็นนายจ้าง ผู้ว่าจ้าง ตัวแทน ผู้ร่วมทุน อย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้นของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการเป็นผู้รับจ้างอิสระ ซึ่งผู้รับบริการเป็นผู้ว่าจ้าง คุณภาพการให้บริการเป็นความรับผิดชอบทั้งสิ้นของผู้ให้บริการเอง การเรียกใช้บริการจากผู้ให้บริการ อาจมีความเสี่ยง ซึ่งผู้รับบริการรับทราบและยินดีใช้บริการ บนความเสี่ยงใด ๆ ในความรับผิดชอบของตัวท่านเอง